Pages

Wednesday, September 23, 2020

แลมพาร์ดเผยเกือบดร็อปฮาแวร์ตซ์เกมเชลซีถล่มบาร์นส์ลีย์ - Goal.com

bantengkabar.blogspot.com

กุนซือสิงโตน้ำเงินครามเปิดเผยว่าเขาเกือบจะไม่ได้ส่งดาวรุ่งชาวเยอรมันลงสนาม เพราะต้องการให้ฝึกซ้อมเรียกความฟิตและทำความเข้าใจกับระบบทีมเพิ่มเติม

แฟรงค์ แลมพาร์ด เฮดโค้ชเชลซี เปิดเผยว่าเขาไม่ได้คิดจะส่ง ไค ฮาแวร์ตซ์ ลงสนามพบบาร์นสลีย์ในตอนแรก เพราะอยากให้นักเตะได้ฝึกซ้อมและทำความเข้าใจกับระบบทีมให้มากกว่านี้

มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวเยอรมันย้ายจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซน มาร่วมทัพด้วยค่าตัวสูงถึง 72 ล้านปอนด์ ทว่ากลับไม่สามารถตอบแทนความคาดหวังของแฟนบอลได้ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2020-21 กับทีมสิงห์บลู ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ตามมาเป็นอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี ล่าสุด ฮาแวร์ตซ์ ก็ได้พิสูจน์ให้แฟนบอลได้เห็นถึงฝีเท้าอันยอดเยี่ยม เมื่อได้รับโอกาสลงเล่นในเกมคาราบาว คัพ รอบสาม ที่เอาชนะบาร์นสลีย์ไปอย่างขาดลอย 6-0 โดยในเกมนี้ ฮาแวร์ตซ์ยิงไปถึง 3 ประตู กลายเป็นแฮตทริคแรกของเขาในชีวิตค้าแข้งกับทีมชุดใหญ่

"เป็นเกมที่สมบูรณ์แบบของไคในวันนี้ เพราะเขาลงสนามโดยแทบจะไม่ได้ซ้อมอะไรเลยด้วยซ้ำ" แลมพาร์ดกล่าวหลังจบเกม "เราต้องส่งเขาลงเพราะเรามีนักเตะเจ็บหลายคนในเกมรุก

"คืนนี้เป็นพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมที่เขาได้ลงเล่นในเกมนี้ ความขยันของเขาช่วยให้รอสส์ บาร์คลีย์ ยิงได้ การเข้าปะทะของเขาในแดนหน้า รวมถึงที่เขายิงไป 3 ประตูด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยม เขาจะยิ่งทำได้ดีกว่านี้อีก

"ผมกะเอาไว้แล้ว ผมอยากจะปกป้องเขาในตอนนั้น ไอเดียของไคในคืนนี้คือให้เขาได้ฝึกซ้อม ไม่ใช่ว่าจะดูถูกเกมนี้นะ แต่เพื่อตัวเขาโดยเฉพาะ ให้เขาได้เห็นว่าเราเล่นอย่างไร ได้ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมทีม ได้ลงสนาม ได้เห็นว่าเราจะกดดันยังไง ได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้น

"ตอนที่เราได้บอล มันทำให้เรามีอิสระเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อมีนักเตะที่มีคุณภาพอย่างเขา เขาทำทุกอย่างที่เราต้องการจากเขาในคืนนี้

"มันเป็นแบบฝึกหัดที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา เป็นอีกเกมที่ได้เห็นว่าเราจะทำงานตอนไม่มีบอลอย่างไร รวมถึงการมีอิสระเวลาได้ครองบอล และประสานงานกับแทมมี อับราฮัม นี่จะเป็นคืนแรกจากอีกหลายๆ คืนสำหรับเขา"

Let's block ads! (Why?)



"ในตอนแรก" - Google News
September 23, 2020 at 06:11PM
https://ift.tt/362saUQ

แลมพาร์ดเผยเกือบดร็อปฮาแวร์ตซ์เกมเชลซีถล่มบาร์นส์ลีย์ - Goal.com
"ในตอนแรก" - Google News
https://ift.tt/2AnIstz

No comments:

Post a Comment